คาถาบูชาพญานาค ท่องยังไง ให้มั่งมีเงินทอง ?

คาถาบูชา พญานาค ท่องยังไง ให้มั่งมีเงินทอง ?

หลายคนมีความเชื่อว่า พญานาค สามารถให้คุณแก่ผู้ที่บูชาได้ และช่วยส่งเสริมชะตาชีวิต หนุนดวงของเรา หากใครบูชา สามารถช่วยสร้างอำนาจ บารมี โชคลาภเงินทอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้บูชาจำเป็นต้องอยู่ในศีลอย่างจริงจัง ย้ำเลยนะคะ ต้องอยู่ในศีลในธรรม แล้วถึงจะสัมฤทธิผล และขอให้ทำบุญทำทานเป็นประจำ เหตุผลเนื่องจากพญานาคมีความเลื่อมใสในหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง ตำนาน พญานาค นาค บางตนมีพลังวิเศษแปลงกายเป็นรูปมนุษย์ได้ บางครั้งมีการสร้างรูปของนาคในลักษณะของมนุษย์ซึ่งมีงู หรือมังกรปรกอยู่เหนือศีรษะในพุทธประวัติระบุว่าเคยมีนาคตนหนึ่งซึ่งแปลงกายอยู่ในรูปมนุษย์ได้มีความพยายามที่จะออกบวช แต่พระโคตมพุทธเจ้าตรัสว่า ไม่สามารถให้นาคบวชได้ หากนาคต้องการบวชจักต้องเกิดใหม่ในชาติที่เป็นมนุษย์จึงจะบวชได้ในศาสนาพุทธเชื่อว่านาคอาศัยในบาดาล เช่นเดียวกันกับเทวดาบางส่วน และอาศัยในส่วนต่างๆ ของโลกมนุษย์ บางส่วนอาศัยในน้ำ เช่นลำธาร แม่น้ำ ทะเล มหาสมุทร และบางส่วนอาศัยบนบกเช่นในถ้ำ นาคเป็นบริวารของท้าววิรูปักษ์ หนึ่งในโลกบาลผู้พิทักษ์ทิศตะวันตก นาคต่างๆ ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์บนเขาพระสุเมรุ เพื่อปกป้องชั้นดาวดึงส์จากอสูร หนึ่งในนาคที่เป็นที่รู้จักดีในศาสนาพุทธ คือมุจลินท์ ซึ่งปรากฏในมุจลินท์สูตรว่า ระหว่างที่พระพุทธเจ้าเสวยวิมุตติสุข เกิดฝนฟ้าคะนองรุนแรง พญามุจลินท์จึงได้ขดรอบพระพุทธองค์แล้วแผ่พังพานปกพระเศียรของพระพุทธเจ้าเพื่อมิให้ทรงต้องฝนหลังจากฝนหยุด พญามุจลินท์ได้คลายขดออก และแปลงกายเป็นชายหนุ่มยืนพนมมือถวายความเคารพอยู่เฉพาะพระพักตร์ตำนานในส่วนนี้มีความแตกต่างกันในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไปตามความเชื่อในแต่ละภูมิภาคนั่นเอง วิธีบูชาพญานาค  พญานาค เป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ และความอุดมสมบูรณ์ เรามักจะเห็นนาคในงานจิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม […]

คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ ป้องกันภัย เสริมดวง ปังๆ !!

คาถาบูชา ท้าวเวสสุวรรณ ป้องกันภัย เสริมดวง ปังๆ

ตำนานท้าวเวสสุวรรณ “ท้าวเวสสุวรรณ” หรือ “ท้าวกุเวร” เป็นเจ้าแห่งอสูรยักษ์ และภูติผีปีศาจ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ประทับอยู่ทางทิศเหนือ และเป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คอยคุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ ท้าวเวสสุวรรณ ว่ากันว่าหัวหน้าของท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 อันประกอบไปด้วย “พระอินทร์” (ท้าวธตรฐ), “พระยม” (ท้าววิรุฬหก) และ “พระวรุณ” (ท้าววิรูปักษ์) ท้าวเวสสุวรรณ คุ้มครองโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ ท้าวเวสสุวรรณ ทรงอิทธิฤทธิ์อานุภาพมาก ร่ำรวยด้วยทรัพย์สินเงินทองมากมีลาภยศ เสริมดวงค้าขาย ช่วยในเรื่องโชคลาภ เสริมความร่ำรวย เมื่อท่านเป็นหัวหน้าของจตุโลกท้าวเวสสุวรรณในความเชื่อของชาวอินเดียและจีน เรียกท้าวเวสสุวรรณว่า “ท้าวกุเวร” คือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ หากประพฤติดี ท้าวเวสสุวรรณจะให้โชคลาภ และช่วยคุ้มครองป้องกันภัยจากสิ่งชั่วร้าย เช่น ภูติผีปีศาจและคุณไสยต่าง ๆ สำหรับใครที่ต้องการความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา เสริมโชคเสริมลาภ ขจัดอุปสรรค ให้บูชารูปท้าวเวสสุวรรณ หรือท้าวกุเวร หรือกราบไหว้บูชาเป็นประจำทุกวัน ในทางพุทธศาสนา มีการกล่าวถึงอดีตชาติของท้าวเวสสุวรรณไว้ว่า มีพราหมณ์นามว่า กุเวร มีอาชีพเป็นคนทำไร่อ้อย เลี้ยงชีพโดยการเอาต้นอ้อยใส่หีบยนต์แล้วคั้นออกมาเป็นน้ำอ้อยไว้ขาย เมื่อกิจการดำเนินไปได้ด้วยดี […]

สีเสื้อมงคลประจำปี 2565 ใส่ยังไงให้ปัง !!

แก้ชง 2565 นักษัตรไหนบ้าง ? พร้อมวิธีแก้ปีชง ฉบับ ธาราญา

ปี 2565 แล้ว การเสริมดวงด้วยเสื้อสีมงคลก็เป็นสิ่งที่ทุกคนห้ามพลาดโดยเด็ดขาด เพราะนอกจากจะเสริมความมั่นใจในแต่ละวันแล้ว ยังเสริมดวงในแต่ละวัน ในแต่ละเรื่องอีกด้วย เช่นการเสริมดวงให้ มีโชคลาภ เพิ่มเสน่ห์ มีความสำเร็จ ผู้ใหญ่รัก มีความโชคดี ในชีวิตทุกประการนั้น ให้เตรียมตัวหยิบเสื้อ กางเกง กระเป๋า รองเท้า ของใช้จิปาถะ สารพัดต่างๆ ที่มีสีตามนี้มาใช้ในแต่ละวันได้เลย แต่ต้องไม่ลืม ดูสีฉุดดวงในแต่ละวันด้วย เพื่อเป็นการเสริมดวง และสร้างความมั่นใจในแต่ละวัน เสื้อสีมงคลเสริมเรื่องการงาน ทำให้การงานราบรื่น อุปสรรคด้านการงานผ่านไปได้ด้วยดี ขายงานผ่าน ไร้เรื่องกวนใจ  เสื้อสีมงคลเสริมเรื่องโชคลาภ การเงินทำให้ขายดี หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง เรียกทรพย์เข้าตัวเรียกยอดขายเข้าร้าน มีโชคถูกรางวัล  เสื้อสีมงคลเสริมเรื่องความรัก ใส่แล้วมีเสน่ห์ดึงดูด เสริมให้รักปัง สมหวังมีคนเข้ามาชอบมาถูกใจ  กาลกิณีประจำวัน สีที่ไม่ควรใส่ในวันนั้น ๆ ใส่แล้วจะอับโชค หรือทำให้โชคไม่ดี วันจันทร์ เสริมดวงด้านการงาน : เขียว, เทา, ครีม เสริมดวงด้านการเงิน : ทอง, ส้ม, เหลือง, ม่วง เสริมดวงด้านความรัก : น้ำเงิน/ฟ้า […]

แก้ชง 2565 นักษัตรไหนบ้าง ? พร้อมวิธีแก้ปีชง ฉบับ ธาราญา !!

แก้ชง 2565 นักษัตรไหนบ้าง ? พร้อมวิธีแก้ปีชง ฉบับ ธาราญา

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “ปีชง” กันอย่างคุ้นหู เพราะในแต่ละปีนั้นจะมีปีนักษัตรที่ชงกัน บางคนก็อาจจะรู้ความหมายอยู่แล้วว่าปีชงนั้นคืออะไร แต่บางคนอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่าปีชง “ปีชง” คือความเชื่อทางโหราศาสตร์ของจีน โดยเกี่ยวข้องกับ “องค์เทพไท้ส่วย” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา” เป็นเทพที่ทรงอิทธิฤทธิ์และยังมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในแต่ละปีอีกด้วย ปีชงตรง-ปีชงร่วม ในแต่ละปีจะมีทั้งปีชงตรง ๆ หรือชง 100% หมายถึงผู้ที่ปะทะโดยตรง ได้รับผลมากที่สุด นอกจากนี้ยังมี ปีชงร่วม ซึ่งแบ่งย่อยอีก 3 ระดับ ได้แก่ ปีคัก คือ ปีที่เป็นปีนักษัตรเดียวกับปีนั้น ๆ (ชงตัวเอง) ปีเฮ้ง คือ ปีที่ได้รับผลกระทบในเรื่องเคราะห์กรรม ปีผั่ว คือ ปีที่ได้รับผลกระทบในเรื่องสุขภาพ ปีชง ปี 2565 สำหรับปีชงในปี 2565 ได้แก่ ปีวอก หรือคนที่เกิดตรงกับปี 2475, 2487, 2499, 2511, 2523, 2535, 2547 และ 2559 ชาวนักษัตรวอก จะมีเกณฑ์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ […]

สวดมนต์ข้ามปี 2564 เสริมดวง แบบ New Normal !!

สวดมนต์ข้ามปี 2564 สริมดวง แบบ New Normal !!

ในช่วงแห่งการเฉลิมฉลองข้ามปี นอกเหนือจากการไปเคาท์ดาวน์ในที่ต่าง ๆ แล้ว การสวดมนต์ข้ามปี ก็นับได้ว่าเป็นกิจกรรมยอดฮิตของเหล่าศาสนิกชน เป็นกุศโลบายที่ดี ที่ช่วยให้คนเข้าถึงศาสนา ซึ่งในช่วงปีหลัง ๆ เหล่าวัยรุ่น คนทำงานก็นิยมไปสวดมนต์ข้ามปีกันมากมาย เรียกว่าทำได้ทุกเพศทุกวัย และไม่ใช่เรื่องของคนแก่ คนเคร่งครัดอีกต่อไป อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ชาวพุทธทำสืบต่อกันมาอย่างช้านาน ในทุก ๆ ปีจะมีกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ก่อนการไปสวดมนต์ข้ามปีนั้นสิ่งที่ควรเตรียม คือ ชุดนุ่งขาวห่มขาว หรือ แต่งกายให้สุภาพ (หากผู้ที่สวดมนต์ข้ามปี ไม่ต้องการไปสวดที่วัด หากทำกิจกรรมที่บ้านก็สามารถแต่งกายได้ตามสบาย) ส่วนบทสวดมนต์ ก็สามารถถือหนังสือ หรือกระดาษที่มีบทสวดเท่านั้น ส่วนใหญ่ทางวัดจะมีหนังสือสวดมนต์ไว้แจกจ่ายหรือให้ยืม  สำหรับกิจกรรมในวันสวดมนต์ข้ามปี ตามวิถีพุทธมีดังนี้  กิจกรรมตั้งแต่เวลา 19.00 น. เริ่มกิจกรรม ทำวัตรสวดมนต์เย็น เวลา 20.00 น. สวดมนต์บทต่าง ๆ และสวดธรรมจักรกัปปวัตนสูตร แล้วเดินประทักษิณรอบพระอุโบสถ เวลา 21.00 น. สวดพระคาถา “มหาสันติงหลวง” ในคัมภีร์อุปปาตะสันติ (พระคาถาเพื่อก่อให้เกิดสันติแก่ชาวโลก) เวลา 22.00 น. สวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ […]

หลายคนสงสัยว่า ถวายสังฆทาน ได้ถึงกี่โมง ?

หลายคนสงสัยว่า ถวายสังฆทาน ได้ถึงกี่โมง ?

การ ถวายสังฆทาน เป็นการทำบุญที่คนไทยเชื่อกันว่าเป็นการทำทานที่ได้บุญมาก เพราะสังฆทานเป็นการถวายทานที่ไม่ระบุเฉพาะว่าเป็นพระสงฆ์รูปใด ผู้ที่ประสงค์จะทำทานจะเตรียมสิ่งของที่จะถวายทาน เมื่อพร้อมแล้วนำไปยังวัด บอกท่านเจ้าอาวาสว่า ต้องการถวายสังฆทาน ท่านจะนิมนต์พระสงฆ์รูปใดมารับสังฆทานก็ได้ หรือจะเตรียมของแล้วนำของไปยังวัด ไปพบพระสงฆ์รูปใดก็แจ้งความจำนงขอถวายสังฆทาน ท่านก็จะทำพิธีรับสังฆทาน หากกำหนดว่าจะถวายแก่พระรูปใดรูปหนึ่ง การทานนั้นก็ไม่เป็น สังฆทาน ถ้าต้องการอุทิศส่วนบุญ(https://www.sanook.com/horoscope/106341/) ส่วนกุศลให้แก่ผู้ใดผู้ถวายทานก็มักจะบอกหรือเขียนชื่อนามสกุล ให้แก่พระภิกษุ เพื่อท่านจะได้ทำพิธีอุทิศส่วนกุศลไปยังผู้ที่บอกชื่อนั้น ๆ การทำสังฆทานนั้นหากมีกำลังมีปัจจัย ขอแนะนำว่าควรทำให้ครบทั้งปัจจัยสี่ มีอาหารคาวหวานให้ครบถ้วน น้ำสะอาด เครื่องนุ่งห่ม (เครื่องบวช) ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย เพิ่มพระพุทธรูปประจำวันเกิดและหนังสือธรรมะเข้าไปด้วยเพื่อให้จิตใจของเจ้ากรรมนายเวร ช่วยให้เขาใจในรสพระธรรม เพื่อให้เขามีจิตใจที่เย็นสบายพ้นทุกข์ การถวายสังฆทาน คือการทำบุญวิธีหนึ่งที่ได้บุญมากเป็นการอุทิศผลบุญให้กับตนเองหรือผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ด้วยการถวาย อาหาร น้ำ เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค และอื่น ๆ ให้กับพระสงฆ์โดยที่ไม่ระบุเจาะจงว่าเป็นพระสงฆ์รูปใดซึ่งถือเป็นหลักสำคัญของการถวายสังฆทาน กล่าวคือต้องตั้งเจตนาว่าจะถวายของสิ่งนั้นแก่สงฆ์เป็นของกลางหรือเป็นของส่วนรวม ไม่ใช่เฉพาะแก่สงฆ์รูปใดรูปหนึ่งนั่นเอง และถ้าจะให้ดีไม่ควรเจาะจงวัดไหนๆ ทั้งสิ้นด้วย ส่วนคำว่า “สังฆทาน” นั้น แปลตรงตัวว่า ถวายเป็นของสงฆ์ และของที่จะถวายสังฆทานนั้นมี 2 ประเภท คือ ของฉัน (ของกิน) กับ ของใช้ แต่ต้องเป็นของที่ถวายพระแล้วพระใช้ได้โดยไม่ผิดวินัยสงฆ์ด้วย เมื่อทราบกันแล้วว่าสังฆทาน […]

อานิสงส์ของการถวายดอกไม้บูชาพระแต่ละชนิด !!

อานิสงส์ ของการถวาย ดอกไม้บูชาพระ แต่ละชนิด !!

เมื่อเราไปไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่เราจะต้องมีก็คือ ดอกไม้ ธูป เทียน ซึ่งเป็นวิธีที่ปฏิบัติกันมาตามหลักศาสนา โดยที่หลายๆคนก็ยังไม่รู้ว่าทำไมจึงต้องถวายสิ่งเหล่านี้ และอานิสงส์ผลบุญจากการถวายนั้นคือ ธูป ถือเป็นเครื่องหอมที่จุดเพื่อเป็นสื่อในการส่งคำอธิษฐานจิตของเราไปสู่เบื้องบน เทียน เป็นแสงสว่างนำทางให้ ดอกไม้ เป็นเครื่องหอม ถวายเพื่อให้มีความสุข ความสดชื่น ดอกไม้เป็นตัวแทนของความงดงาม และถูกประเมินค่าให้เป็นสิ่งมีคุณค่า กลายเป็นเครื่องบูชาที่ศาสนาต่าง ๆ เลือกใช้เป็นเครื่องบูชา พระพุทธศาสนาเองก็นิยมใช้ดอกไม้เป็นเครื่องบูชาพระพุทธเจ้า ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเล่าถึง อานิสงส์แห่งการถวายดอกไม้ บูชาพระพุทธเจ้าไว้อย่างน่าสนใจ จึงขอยกมานำเสนอดังนี้ พระจุนทเถระหลังจากบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว ได้อุทานขึ้นพร้อมเล่าถึงผลบุญที่ส่งผลให้เกิดในสมัยของพระสมณโคดมพุทธเจ้าว่า ครั้งสมัยพระสิทธัตถะพุทธเจ้า ท่านได้นำดอกไม้เข้าไปถวายถึงเบื้องพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งประทับอยู่ท่ามกลางหมู่สงฆ์ผู้เป็นพระขีณาสพ พระพุทธเจ้าตรัสขึ้นว่า “ผู้ใดมอบดอกไม้อันมีค่าและมีกลิ่นหอมฟุ้งแก่เรา เราจะพยากรณ์ผู้นั้น ขอท่านทั้งหลายในที่นี้โปรดฟังการพยากรณ์ของเรา ผู้นี้หลังจากสิ้นบุญจากโลกไปแล้วจะไปสู่สรวงสวรรค์ เป็นมิตรกับเหล่าเทพยดา มีวิมานทองคำที่วิจิตรตระการตาด้วยอัญมณี แวดล้อมด้วยบริวารนางฟ้า เสวยทิพยสมบัติเช่นนี้ถึง 74 ชาติ (คือเกิดเป็นเทวดาอย่างต่อเนื่องถึง 74 ชาติ) หลังจากนั้นจะเกิดเป็นพระราชาปกครองแผ่นดินถึง 300 ชาติ จากนั้นจะเกิดเป็นพระมหาจักรพรรดิราชถึง 75 ชาติ เป็นใหญ่กว่ามนุษย์ทั้งปวง มีนามว่า “ทุชชยะ” เป็นเช่นนี้ไม่มีทางไปสู่อบายภูมิ จากนั้นเขาจะเกิดในตระกูลพราหมณ์ เป็นบุตรชายของวังคันตพราหมณ์กับนางสารีพราหมณ์ มีปัญญามาก ต่อมาบวชในศาสนาของพระอังคีรส […]

ฝึกนั่งสมาธิ 10 นาที ช่วยให้จิตใจสงบขึ้นทุกวัน จริงหรือ ?

ฝึกนั่งสมาธิ 10 นาที ช่วยให้จิตใจสงบขึ้นทุกวัน จริงหรือ ?

การนั่งสมาธิเป็นการฝึกปฏิบัติตนให้มีจิตที่ผ่องใส ลดความคิดฟุ้งซ่าน และทำให้จดจ่ออยู่กับปัจจุบัน หลายคนอาจมองว่าการนั่งสมาธิมีความเชื่อมโยงกับพระพุทธศาสนาเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว สามารถนำการนั่งสมาธิมาปรับใช้กับเรื่องอื่นๆ ได้มากมาย เพียงแต่อาจจะมีรายละเอียดที่ลึกซึ้งแตกต่างกัน เมื่อเทียบกับการนั่งสมาธิวิปัสสนาในทางพุทธ สำหรับการนั่งสมาธิในทางพระพุทธศาสนา นอกจากต้องการความสงบ ทำให้มีสติและเกิดปัญญาแล้ว ยังมีจุดประสงค์ในด้านการวิปัสสนา เช่น อานาปานสติ ที่สอนให้พิจารณาลมหายใจเข้า-ออก และตระหนักรู้ปัจจุบันขณะอยู่ตลอดเวลา รวมถึงเมื่อฝึกนั่งสมาธิไปเรื่อยๆ ก็จะมีการแบ่งขั้นกรรมฐานต่างๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ จุดร่วมของการนั่งสมาธิก็คือ การทำจิตใจให้สงบ และจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน นั่นเอง เมื่อเป็นเช่นนั้น การตั้งใจทำงาน ก็ถือว่าเป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่งเช่นกัน การนั่งสมาธิมีกี่แบบ และท่านั่งพื้น การนั่งสมาธิมีหลายแบบ และหลายระดับ ซึ่งในแต่ละระดับก็อาจมีฐานต่างๆ อีกมากมาย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการนั่งสมาธิเจริญกรรมฐาน ว่าต้องการเพียงความสงบในจิตใจ หรือต้องการฝึกปฏิบัติเพื่อให้รู้แจ้งเห็นธรรม โดยการนั่งสมาธิในระดับ “ญาณ” ก็จะต้องมีผู้รู้มาคอยชี้แนะในการปฏิบัติ แต่หากจะแบ่งการนั่งสมาธิแบบพื้นฐาน สามารถแบ่งออกเป็น 3 แบบ ได้แก่1. ขณิกสมาธิ : การทำสมาธิแบบชั่วครู่ เป็นขั้นพื้นฐานสำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการสมาธิในการเรียน และทำงาน มีสติรู้ตัวตนว่ากำลังทำอะไรอยู่ 2. อุปจารสมาธิ : การทำสมาธิในระยะเวลาที่นานขึ้น สำหรับผู้ที่กำลังจะได้ฌาน และนิมิตต่างๆ ตามความเชื่อในพระพุทธศาสนา 3. […]

สังฆทาน “ยุคใหม่” เลือกซื้อสังฆทานออนไลน์ได้ง่ายๆ !!

สังฆทานยุคใหม่ เลือกซื้อสังฆทานออนไลน์ได้ง่ายๆ !!

สังฆทาน คือ การถวายสิ่งของแด่พระภิกษุสงฆ์ โดยไม่จำเพาะเจาะจงพระภิกษุรูปหนึ่งรูปใด เมื่อถวายให้แล้วก็ถือว่าพระภิกษุสงฆ์ทุกรูปมีสิทธิ์ใช้สอยสิ่งของเหล่านั้นตามสะดวก อาจจะมี เพียงตัวแทนสงฆ์เพียงรูปเดียวมารับประเคน ก็ถือว่า เป็นการถวายสังฆทานเหมือนกัน สังฆทาน แยกเป็น 2 คำ ได้แก่ ”สังฆะ” และ ”ทาน” โดย (สังฆะ) หมายถึง ภิกษุตั้งแต่ 2 รูปขึ้นไป และ (ทาน) หมายถึง การให้, แบ่งปัน, แจกจ่ายวัตถุสิ่งของปัจจัยสี่ด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ เมื่อรวมความหมายแล้ว “สังฆทาน”  ฉะนั้นแล้วการตั้งใจถวายเครื่องสังฆทานแก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งเป็นการเฉพาะเจาะจงหรือที่เรียกว่า “ปาฏิปุคลิกทาน” เราไม่เรียกว่าเป็นการถวายสังฆทานเพราะทานเช่นนี้ยังไม่ช่วยทำให้จิตใจห่างจากความยึดติดถือมั่น แต่กระนั้นก็ยังถือว่าเป็นทานที่ควรทำอยู่เพราะถือเป็นการฝึกให้ปัจเจกบุคคลรู้จักพัฒนาตนให้มีธรรม การถวายสังฆทานมีที่มาอย่างไร ในสมัยพุทธกาลพระนางมหาปชาบดี (พระแม่น้า) ต้องการถวายผ้าจีวรแก่พระพุทธองค์ แต่พระพุทธองค์ทรงแนะนำให้พระนางถวายแก่สงฆ์ โดยอรรถาธิบายว่า การถวายแก่สงฆ์ย่อมให้อานิสงส์มากกว่าถวายแก่พระองค์เป็นการเฉพาะ ตั้งแต่นั้นมา ชาวพุทธจึงถือกันว่า การถวายสังฆทาน เป็นมหาทานที่ทำให้มีอานิสงส์มาก ได้บุญมาก การเลือกซื้อสังฆทานยุคใหม่ เลือกซื้อสังฆทานในปัจจุบัน หรือการเลือกซื้อ แบบ New Normal เมื่อโลกหมุนเร็วขึ้นทุกวัน ทำให้หลากหลายธุรกิจต้องปรับตัวไปตาม ๆ กัน เพื่อให้ทันต่อยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงวัดหรือศาสนสถานของชาวพุทธศาสนิกชนชาวไทยด้วยเช่นกัน ในปัจจุบันก็เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 และเรื่องฝุ่น pm2.5 ทำให้วิถีการทำบุญถวายสังฆทานของชาวไทยเปลี่ยนแปลงไปด้วย ซึ่งในปัจจุบันได้มีการเลือกซื้อสังฆทานการในโลกออนไลน์เพิ่มมากขึ้น […]

ความเป็นมาและความสำคัญของประเพณีลอยกระทง

ความเป็นมาและความสำคัญของประเพณีลอยกระทง

วันลอยกระทงถือเป็นอีกหนึ่งประเพณีเก่าแก่ที่สำคัญของคนไทย จะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย ซึ่งมักจะตรงกับช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ประเพณีนี้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคา จึงมักจะเห็นในหลายพื้นที่จัดงานเทศกาลลอยกระทงตามบริเวณที่ติดกับแม่น้ำ ลำคลอง หรือ แหล่งน้ำต่าง ๆ ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจแตกต่างกันไป ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีโบราณของอินเดียที่ประเทศไทยรับเข้ามาปฏิบัติ ตำนานกล่าวไว้ว่าในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง มีนางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ เป็นผู้ประดิษฐ์กระทงขึ้นครั้งแรก โดยนำดอกโคทม ซึ่งเป็นดอกบัวที่บานเฉพาะวันเพ็ญเดือนสิบสองมาใช้ใส่เทียนประทีป เพื่อบูชารอยพระพุทธบาท แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงจากการทำจากดอกบัวเป็นต้นกล้วยเพราะดอกบัวดังกล่าวหายากและมีน้อยจึงใช้ต้นกล้วยทำแทนแล้วดูไม่สวยจึงใช้ใบตองมาพับแต่งจนสวยในที่สุดจนสืบทอดมาจนปัจจุบัน ประวัติความเป็นมาของวันลอยกระทง ประเพณีลอยกระทงนั้น ไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัดว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อใด แต่เชื่อว่าประเพณีนี้ได้สืบต่อกันมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง เรียกประเพณีลอยกระทงนี้ว่า “พิธีจองเปรียญ” หรือ “การลอยพระประทีป” และมีหลักฐานจากศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าวถึงงานเผาเทียนเล่นไฟว่าเป็นงานรื่นเริงที่ใหญ่ที่สุดของกรุงสุโขทัย ทำให้เชื่อกันว่างานดังกล่าวน่าจะเป็นงานลอยกระทงอย่างแน่นอน ในสมัยก่อนนั้นพิธีลอยกระทงจะเป็นการลอยโคม โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงสันนิษฐานว่า พิธีลอยกระทงเป็นพิธีของพราหมณ์ จัดขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้า 3 องค์ คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ต่อมาได้นำพระพุทธศาสนาเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงให้มีการชักโคม เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และลอยโคมเพื่อบูชารอยพระบาทของพระพุทธเจ้า ก่อนที่นางนพมาศ หรือ […]